วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เรื่องราชานก


          พระอิศวรผู้เป็นเจ้าป่าวร้องให้พวกนกทั้งหลายน้อยใหญ่ให้มาประชุมกันเลือกตั้งหัวหน้าให้เป็นราชานกเพื่อเป็นตัวแทนได้ขึ้นเฝ้า พระอิศวรจะสั่งการงานอะไรมาง่ายขึ้น  นกทั้งหมดมีเหลือร้อยแปดพันนกต่างประชุมกันเสนอให้นกดุกซึ่งอยู่เคร่งขรึมน่าเกรงขาม แต่พวกนกเล็ก ๆ มากมายตื่นกลัวความเคร่งขรึมและเสียงดุของนกดุจึงไม่เอา  เสนอนกอินทรีย์มีฤทธิ์อำนาจมากเกินพวก นกน้อย ๆ ไม่ชอบอีก  จึงเสนอนกกาดำ เพราะไม่เล็กไม่ใหญ่ นกต่าง ๆ ก็ตกลงตั้งให้กาเป็นราชานก  พอรุ่งเช้าพระอิศวรสั่งให้ขึ้นเฝ้าเวลาเช้า ๘.๐๐ น.

          พอรุ่งขึ้นนกกาก็แต่งตัวสอดปีกขนดำเป็นมันให้สมกับราชานกเพื่อขึ้นไปฟังโอวาทพระอิศวร  พอบินมาได้พักหนึ่งจะเหินขึ้นฟ้าก็บังเอิญกลิ่นเหม็นซึ่งนกกาชอบมาปะทะจมูกเข้า  เจ้านกกาบินไปไม่รอดจึงแวะเข้าไปดู  เห็นหมูนอนตายเหม็นคลุ้งอยู่ เจ้ากาน้ำลายไหลวิ่งเข้าไปจิกกิน  ยิ่งกินยิ่งอิ่มอร่อยเพราะยิ่งเข้าไปถึงตับไตใส้พุง จนลืมการประชุม  นึกได้ก็เลยเวลาเป็นชั่วโมง  พระอิศวรก็ไล่กลับเพราะไม่ตรงเวลาเป็นหัวหน้าเพื่อนไม่ได้  นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าสันดานเดิมยังทิ้งไม่ได้ เหมือนภาษิตว่า จริตติดตัว ทิ้งเสียผัวไม่ทิ้งจริต

          พวกนกทั้งหลายจึงประชุมกันตั้งหัวหน้าใหม่ คราวนี้ให้บินสูงแข่งกัน  ใครบินสูงกว่าเพื่อนก็ให้เป็นราชานก  นางนกฝ้ายตัวเล็กเจ้าปัญญาจึงกระโดดเข้าไปซุ่มอยู่ในขนหลังของนกอินทรีย์ พอบินโผนสูงสุด  นกฝ้ายจึงลอยออกจากตัวนกอินทรีย์ จึงลอยอยู่สูงกว่าเพื่อน  ตกลงนางนกฝ้ายได้เป็นราชานกมาจนทุกวันนี้

          ก็สมเหตุผล รังนางนกฝ้ายทำด้วยใบไม้ใบเดียวห่อเข้าเป็นกรวย โดนลมฝนก็ไม่เปียก ทั้งในรังนั้นนุ่มด้วยสำลี สมเป็นราชานก  ข้าพเจ้าจำได้เมื่อตอนเล็ก ๆ ย่าไล่ตีหากไปเล่นรังนางนกฝ้าย คุณย่าว่ามันจะแช่งถึงตายได้เพราะเป็นราชานก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น