เรื่องราชานก
พระอิศวรผู้เป็นเจ้าป่าวร้องให้พวกนกทั้งหลายน้อยใหญ่ให้มาประชุมกันเลือกตั้งหัวหน้าให้เป็นราชานกเพื่อเป็นตัวแทนได้ขึ้นเฝ้า พระอิศวรจะสั่งการงานอะไรมาง่ายขึ้น นกทั้งหมดมีเหลือร้อยแปดพันนกต่างประชุมกันเสนอให้นกดุกซึ่งอยู่เคร่งขรึมน่าเกรงขาม แต่พวกนกเล็ก ๆ มากมายตื่นกลัวความเคร่งขรึมและเสียงดุของนกดุจึงไม่เอา เสนอนกอินทรีย์มีฤทธิ์อำนาจมากเกินพวก นกน้อย ๆ ไม่ชอบอีก จึงเสนอนกกาดำ เพราะไม่เล็กไม่ใหญ่ นกต่าง ๆ ก็ตกลงตั้งให้กาเป็นราชานก พอรุ่งเช้าพระอิศวรสั่งให้ขึ้นเฝ้าเวลาเช้า ๘.๐๐ น.
พอรุ่งขึ้นนกกาก็แต่งตัวสอดปีกขนดำเป็นมันให้สมกับราชานกเพื่อขึ้นไปฟังโอวาทพระอิศวร พอบินมาได้พักหนึ่งจะเหินขึ้นฟ้าก็บังเอิญกลิ่นเหม็นซึ่งนกกาชอบมาปะทะจมูกเข้า เจ้านกกาบินไปไม่รอดจึงแวะเข้าไปดู เห็นหมูนอนตายเหม็นคลุ้งอยู่ เจ้ากาน้ำลายไหลวิ่งเข้าไปจิกกิน ยิ่งกินยิ่งอิ่มอร่อยเพราะยิ่งเข้าไปถึงตับไตใส้พุง จนลืมการประชุม นึกได้ก็เลยเวลาเป็นชั่วโมง พระอิศวรก็ไล่กลับเพราะไม่ตรงเวลาเป็นหัวหน้าเพื่อนไม่ได้ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าสันดานเดิมยังทิ้งไม่ได้ เหมือนภาษิตว่า จริตติดตัว ทิ้งเสียผัวไม่ทิ้งจริต
พวกนกทั้งหลายจึงประชุมกันตั้งหัวหน้าใหม่ คราวนี้ให้บินสูงแข่งกัน ใครบินสูงกว่าเพื่อนก็ให้เป็นราชานก นางนกฝ้ายตัวเล็กเจ้าปัญญาจึงกระโดดเข้าไปซุ่มอยู่ในขนหลังของนกอินทรีย์ พอบินโผนสูงสุด นกฝ้ายจึงลอยออกจากตัวนกอินทรีย์ จึงลอยอยู่สูงกว่าเพื่อน ตกลงนางนกฝ้ายได้เป็นราชานกมาจนทุกวันนี้
ก็สมเหตุผล รังนางนกฝ้ายทำด้วยใบไม้ใบเดียวห่อเข้าเป็นกรวย โดนลมฝนก็ไม่เปียก ทั้งในรังนั้นนุ่มด้วยสำลี สมเป็นราชานก ข้าพเจ้าจำได้เมื่อตอนเล็ก ๆ ย่าไล่ตีหากไปเล่นรังนางนกฝ้าย คุณย่าว่ามันจะแช่งถึงตายได้เพราะเป็นราชานก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น